เคล็ดลับในการเปรียบเทียบและเลือกโบรกเกอร์สำหรับการเทรด Binary Options

โลกของการเทรด Binary Option ให้โอกาสอันน่าตื่นเต้นมากมายซึ่งจะได้รับความเพลิดเพลินสูงสุดด้วยแนวทางของโบรกเกอร์ Binary Option การเลือกโบรกเกอร์ที่เหมาะสมกับความต้องการในการเทรดของคุณมากที่สุดอาจเป็นสิ่งที่ใช้เวลานานและยากลำบาก อย่างไรก็ตามคุณควรรู้ว่าโบรกเกอร์เปรียบเสมือนคู่ค้าทางธุรกิจของคุณที่จะอยู่ร่วมกับคุณในทุกการเทรด นี่คือเหตุผลว่าทำไมคุณควรให้ความสำคัญกับการเลือกโบรกเกอร์อย่างมาก โบรกเกอร์สามารถช่วยให้คุณเทรดได้ดีขึ้นและแนะนำให้คุณได้รับผลตอบแทนที่ดีที่สุด

ในตลาดมีโบรกเกอร์ Binary Option ให้เลือกมากมาย ทั้งโบรกเกอร์ที่ได้รับการควบคุม โบรกเกอร์ที่ไม่ได้รับการควบคุม โบรกเกอร์หลอกลวง โบรกเกอร์ที่มีความน่าเชื่อถือมาเป็นระยะเวลานาน โบรกเกอร์ใหม่ โบรกเกอร์ที่มีแพลตฟอร์มรวดเร็วหรือช้าเหมือนเต่า และอื่น ๆ โบรกเกอร์ทั้งหมดในตลาดมีอยู่หลายร้อยที่ ผมบอกจำนวนกับคุณแบบเป๊ะ ๆ ไม่ได้หรอกครับ แต่ถ้าให้เดาผมคิดว่าอาจจะประมาณ 600 ที่ ผมจึงไม่แปลกใจเลยที่เทรดเดอร์ใหม่จะสับสนกับการเลือกโบรกเกอร์

การเลือกโบรกเกอร์ที่เหมาะสมนั้นมีเกณฑ์และปัจจัยต่าง ๆ มากมาย เราต้องการทำให้เรื่องนี้ง่ายสำหรับคุณ ดังนั้นที่เว็บไซต์ของเรา คุณจะพบกับรายชื่อโบรกเกอร์ Binary Option ที่แนะนำ เราตรวจสอบโบรกเกอร์แต่ละที่ด้วยตนเอง ทำให้เวลาที่คุณตัดสินใจที่จะเปิดบัญชีกับพวกเขา คุณไม่จำเป็นต้องกังวลอะไรเลย

เลือกโบรกเกอร์ Binary Option อย่างไรดี? 

การเลือกโบรกเกอร์นั้นไม่ง่าย และนี่คือเหตุผลว่าทำไมผมจึงได้เตรียมเคล็ดลับเกี่ยวกับการเลือกโบรกเกอร์ที่เหมาะสม และวิธีในการเลือกโบรกเกอร์ที่ดีที่สุดสำหรับความต้องการในการเทรดของคุณ ด้านล่างนี้จะมีเกณฑ์ต่าง ๆ ที่คุณควรพิจารณาเมื่อเลือกโบรกเกอร์ ส่วนคุณจะให้ความสำคัญกับเกณฑ์ไหนมากกว่ากันก็แล้วแต่คุณเลย

• เงินปันผล – การเทรด Binary Options ให้เงินปันผลที่แตกต่างกันออกไป บางโบรกเกอร์ (เช่น IQ Option) ให้เงินปันผลสูงถึง 92% ต่อเทรด บางโบรกเกอร์อาจจะให้สูงถึง 250% (ขึ้นอยู่กับ ประเภทของ Option) เงินปันผลจะแตกต่างออกไปในแต่ละโบรกเอร์ บางโบรกเกอร์เปิดให้คุณสามารถขอคืนเงิน 5-10% จากการลงทุนของคุณที่ไม่ชนะได้ เป้าหมายของเทรดเดอร์หลายคนคือการหาเงินปันผลให้ได้มากที่สุด เมื่อคุณมีโบรกเกอร์ Binary Options ที่ดีแล้ว คุณสามารถทำได้แน่นอน นี่คือเหตุผลว่าทำไมคุณควรเลือกอย่างรอบคอบ
• วิธีการฝากและถอนเงิน – แพลตฟอร์มการเทรดมีวิธีการฝากและถอนเงินที่แตกต่างกันออกไป เลือกแพลตฟอร์มที่มีวิธีการฝากและถอนเงินที่เหมาะกับคุณ เช่น โดยส่วนตัวแล้วผมชอบฝากและถอนเงินโดยการใช้กระเป๋าเงินออนไลน์ (เช่น Skrill เป็นต้น)
• เวลาหมดอายุ – ตรวจสอบดูว่าโบรกเกอร์มีตัวเลือกเวลาหมดอายุให้เลือกหลากหลายหรือไม่ เรื่องนี้ไม่น่ามีปัญหาเพราะปกติโบรกเกอร์มักจะมีเวลาหมดอายุให้เลือกมากมายอยู่แล้ว (5 น., 15 น., 30 น., 1 ชม. และอื่น ๆ)
• การฝากเงินขั้นต่ำ – แพลตฟอร์มการเทรดมีขั้นต่ำการฝากเพื่อเริ่มเทรดที่แตกต่างกันออกไป คุณควรมองหาจำนวนขั้นต่ำที่เหมาะสำหรับคุณ ตัวอย่างเช่น จำนวนฝากเงินขั้นต่ำของโบรกเกอร์ IQ Option อยู่ที่แค่ 10 ดอลลาร์เท่านั้น โบรกเกอร์ Option อื่น ๆ มักจะให้ฝากตั้งแต่ 200 ดอลลาร์ขึ้นไป
• เครื่องมือการเทรด – แพลตฟอร์มการเทรดบางแห่งมีสัญญาณการเทรด, บทเรียน, social trading, automated trading และอื่น ๆ ไม่ใช่ทุกแพลตฟอร์มที่จะมีเครื่องมือเหมือนกัน ดังนั้นคุณควรเลือกแพลตฟอร์มที่มีเครื่องมือที่คุณใช้
• บัญชีทดลอง – แพลตฟอร์มการเทรดหลายแห่งใส่ใจลูกค้า โดยเฉพาะผู้ลงทุนหน้าใหม่ โดยการให้พวกเขาได้ใช้บัญชีทดลองใช้ บัญชีทดลองใช้จะช่วยให้คุณได้รับประสบการณ์ในการเทรดก่อนที่จะฝากเงินของคุณจริง ๆ เพื่อไปเทรด ผมขอแนะนำให้คุณลองบัญชีทดลองก่อนที่จะไปเทรดจริงเพื่อให้คุณคุ้นเคยกับแพลตฟอร์มก่อน
• การบริการลูกค้า – ค้นหาว่าแพลตฟอร์มมีการบริการลูกค้าที่สามารถตอบทุกข้อสงสัยที่คุณมีเกี่ยวกับ Binary Options ได้หรือไม่ สัญญาณที่ดีคือเมื่อโบรกเกอร์มีการสนับสนุนออนไลน์ผ่านแชตในภาษาเช็ก
• อินเทอร์เฟซผู้ใช้ที่เรียบง่าย –หาโปรแกรมการเทรดมืออาชีพที่มีอินเทอร์เฟซผู้ใช้ที่เรียบง่าย สิ่งนี้จะช่วยประหยัดเวลาและความพยายามในการเรียนรู้วิธีใช้งาน โปรแกรมส่วนใหญเป็นโปรแกรมบนเว็บไซต์ที่มีการควบคุมแบบโต้ตอบ
• มีสินทรัพย์หลากหลาย – หนึ่งในสิทธิประโยชน์ที่ดีที่สุดของซอฟท์แวร์มืออาชีพคือการที่พวกเขาไม่จำกัดการลงทุน โบรกเกอร์ Binary Option ที่มีชื่อเสียงควรให้โอกาสเทรดเดอร์ในการเลือกลงทุนในสินทรัพย์ที่หลากหลาย เช่น สินค้าโภคภัณฑ์ หุ้น และคู่สกุลเงิน การมีสินทรัพย์ที่หลากหลายจะช่วยเพิ่ม profit margin ให้กับนักลงทุน
• หลากหลายภาษา – ตลาดโลกของ Binary Option กำลังเติบโตอย่างรวดเร็ว ดังนั้นโบรกเกอร์ Binary Option ส่วนใหญ่จึงมีการแปลหน้าเว็บให้มีหลากหลายภาษา ทุกโบรกเกอร์ควรมีอย่างน้อย 20 ภาษา ยิ่งมีภาษาให้เลือกมากเท่าไหร่ คนก็จะยิ่งเชื่อถือโบรกเกอร์มากขึ้นเท่านั้น

สรุป

แพลตฟอร์มการเทรด Binary Options มีหลายอย่างที่เหมือนกัน แต่ก็อาจมีความแตกต่างที่การฝากเงินครั้งแรก เงินปันผลสูงสุด ตัวเลือกในการฝากและถอนเงิน เวลาหมดอายุ และการบริการลูกค้า

อย่างที่ผมได้พูดถึงไปก่อนหน้านี้ มีบางแพลตฟอร์มที่สามารถคืนเงินให้กับเทรดเดอร์เป็นจำนวนเปอร์เซ็นต์หนึ่งสำหรับเทรดที่ไม่ประสบความสำเร็จ ดังนั้นมันจึงสำคัญมากที่จะหาข้อมูลเกี่ยวกับแพลตฟอร์มการเทรดให้ได้มากที่สุดก่อนที่จะตัดสินใจว่าจะเลือกใช้แพลตฟอร์มไหน ผมหวังว่าเคล็ดลับเหล่านี้จะเป็นประโยชน์ในการเลือกโบรกเกอร์ Binary Option สำหรับการเทรด Binary Option นะครับ 😉