สภาพตลาด (Market Condition) คืออะไร?

สภาพตลาด (Market Condition) คือ สภาวะของตลาด ณ ช่วงเวลาหนึ่ง โดยจะมีอยู่สองประเภทหลักๆ คือ สภาวะตลาดขาขึ้นหรือสภาวะกระทิง (Bullish)  และ สภาวะตลาดขาลงหรือสภาวะหมี (Bearish) เทรดเดอร์ที่เริ่มต้นเทรดใน IQ OPTION จำเป็นต้องมีความรู้และความเข้าใจในสภาพตลาดก่อนเข้าเทรด เพราะสิ่งแรกที่เทรดเดอร์ต้องทำให้ได้นั่นคือ การเข้าใจสภาพตลาด ณ ช่วงเวลาที่เข้าเทรด การเข้าใจสภาพตลาดเป็นสิ่งสำคัญขั้นพื้นฐานสำหรับการวิเคราะห์การเทรด Binary Option เพราะหากเทรดเดอร์ไม่สามารถวิเคราะห์ตลาดได้ทุกอย่างก็จบ หากไม่มีความเข้าใจเรื่องสภาพตลาดก็ยากที่จะเรียนรู้และต่อยอดในสิ่งต่างๆ ด้านการเทรด ดังนั้นเพื่อให้เหล่าสมาชิกเทรดเดอร์หน้าใหม่ทุกคนสามารถต่อยอดและเทรดเข้าทำกำไรแบบมืออาชีพได้ เราจะมาสอนการวิเคราะห์สภาพตลาดเพื่อการเข้าเทรด

หลายคนมักเกิดคำถามกับตัวเองว่าเราควรจะเทรดขึ้นหรือเทรดลง?

หากคุณเป็นเทรดเดอร์มือใหม่ที่เข้ามาในวงการเทรด Binary Option หลังจากเปิดกราฟมาสิ่งแรกที่เกิดขึ้นคือ การตั้งคำถามกับตัวเองว่าเราควรจะเทรดขึ้นหรือเทรดลง? การที่คุณเกิดคำถามนี้ขึ้นมาในหัวนั่นหมายความว่าคุณยังไม่มีความรู้เกี่ยวกับการวิเคราะห์สภาวะของตลาด คุณต้องไม่ลืมว่าการเทรด Binary Option ไม่ใช่การพนัน ดังนั้นคุณจึงต้องไม่ใช้การเดาในการเข้าเทรดเพราะเมื่อไหร่ก็ตามที่คุณไม่รู้หลักการวิเคราะห์ตลาด การเทรดก็จะไม่ได้ต่างไปจากการพนันดีๆ นี่เอง สำหรับการเทรด Binary Option ในแพลตฟอร์มของ IQ OPTION คุณจำเป็นต้องเข้าเทรดโดยใช้หลักเหตุและผลในการเข้าออร์เดอร์ นั่นหมายความว่าทุกการเข้าออร์เดอร์จำเป็นต้องมีเหตุและผลในการซื้อหรือขายที่ไม่ใช่มาจากการเดา ดังนั้นเราขอแนะนำวิธีการวิเคราะห์ตลาดเพื่อให้เหล่าเทรดเดอร์มือใหม่ได้นำไปปรับใช้ในการเทรดใน IQ OPTION

วิธีการวิเคราะห์สภาวะตลาด (Market Analysis)

สำหรับการเทรดสกุลเงินหรือสินทรัพย์ในแพลตฟอร์ม IQ OPTION เทรดเดอร์จำเป็นต้องวิเคราะห์สภาวะตลาดให้เข้าใจก่อนการเข้าเทรดเท่านั้น โดยหลักๆ สภาวะตลาดจะถูกแบ่งออกเป็น 2 ประเภท คือ สภาวะตลาดขาขึ้น (Bullish) และ สภาวะตลาดขาลง (Bearish) สำหรับภาษาเทรดเดอร์มักเรียกกันง่ายๆ ว่าเทรนด์ขาขึ้นหรือเทรนด์ขาลงซึ่งเป็นคำพูดที่เรามักได้ยินกันอยู่บ่อยๆ เพื่อให้เพื่อนๆ สามารถเข้าเทรดได้เราจะมาสอนวิธีการวิเคราะห์สภาวะตลาดไปพร้อมกัน

การวิเคราะห์สภาวะตลาดขาขึ้น

สำหรับสภาวะตลาดขาขึ้นคือ การที่ตลาดเกิดความต้องการซื้อมาก ทำให้กราฟเกิดการผลักดันราคาให้สูงขึ้น หากพูดตามหลักเศรษฐศาสตร์คือ การที่ตลาดมีดีมานด์ (Demand) มากกว่า ซัพพลาย (Supply)

ทำความเข้าใจสภาพตลาด (Market Condition)-1

(ภาพตัวอย่างสภาวะตลาดขาขึ้น)

การวิเคราะห์สภาวะตลาดขาลง

สำหรับสภาวะตลาดขาลงคือ การที่ตลาดเกิดความต้องการขายมาก ทำให้กราฟเกิดการผลักดันราคาลง ตามหลักเศรษฐศาสตร์จะเรียกว่า การที่ตลาดมีซัพพลาย (Supply) มากกว่า ดีมานด์ (Demand)

ทำความเข้าใจสภาพตลาด (Market Condition)-2

(ภาพตัวอย่างสภาวะตลาดขาลง)

ทั้งสองสภาวะตลาดที่เราได้ทำการเสนอไปคือ สภาวะตลาดขาขึ้น(Bullish) และ สภาวะตลาดขาลง(Bearish) แต่ในความเป็นจริงสำหรับการเทรดตลาดไม่ได้ใจดีวิ่งเป็นเทรนด์ให้เราเข้าเทรดเสมอไป เราขอแนะนำอีกหนึ่งสภาวะตลาดที่เพื่อนๆ จะต้องพบเจออย่างแน่นอน 100% คือ สภาวะตลาดพักตัว(Side Way) สำหรับสภาวะตลาดพักตัวคือ การที่ผู้คนอยู่ในช่วงความสับสนว่าจะซื้อหรือขาย ทำให้ปริมาณซื้อ-ขายมีความใกล้เคียงกัน ดังนั้นจึงส่งผลให้กราฟเกิดการวิ่งไปด้านข้างไม่ขึ้น-ไม่ลง

ทำความเข้าใจสภาพตลาด (Market Condition)-3

(ภาพตัวอย่างสภาวะตลาดพักตัว)

วิธีการหาจุดเข้าออร์เดอร์หลังจากวิเคราะห์สภาวะตลาด

หลังจากที่เพื่อนๆ สามารถวิเคราะห์สภาวะตลาดได้แล้วในขั้นต่อไปจะเป็นการหาจุดเข้าออร์เดอร์ วิธีการหาจุดเข้าออร์เดอร์นั้นง่ายมาก หากเพื่อนๆลองสังเกตพฤติกรรมการเคลื่อนที่ของกราฟดีๆจะพบว่า 
กราฟนั้นวิ่งเป็นลักษณะรูป “คลื่น” ส่วนประกอบของคลื่นจะประกอบไปด้วยจุดต่ำสุดและจุดสูงสุด ตรงนี้เองคือคีย์หลักที่เพื่อนๆ ต้องจำให้ได้ เพราะหากสังเกตดีๆ จะพบว่าทุกครั้งที่กราฟมีการทำจุดสูงสุด(High) ของราคากราฟจะกลับตัวลง ในทางกลับกันหากสังเกตุอีกจุดก็จะพบว่าทุกครั้งที่กราฟมีการทำจุดต่ำสุด(Low) ของราคากราฟจะกลับตัวขึ้น ดังภาพประกอบ 

ทำความเข้าใจสภาพตลาด (Market Condition)-4

ในสภาวะตลาดขาขึ้น (Bullish) ให้เพื่อนๆทำการเข้าออร์เดอร์ซื้อที่จุดต่ำสุด (Low) ของราคา เพราะถ้าหากเพื่อนๆไปเข้าออร์เดอร์ขายที่จุดสูงสุด (High) ของราคา จะเป็นการเล่นสวนเทรนด์ทันที ซึ่งไม่ควรทำหากไม่มีความชำนาญมากพอ

ทำความเข้าใจสภาพตลาด (Market Condition)-5

สำหรับการวิ่งของกราฟในสภาวะตลาดขาลง(Bearish) ก็จะใช้หลักการเดียวกับสภาวะตลาดขาขึ้นคือ มีการทำจุดต่ำสุด(Low) และจุดสูงสุด(Hight) เพียงแต่เป็นการวิ่งในลักษณะการไต่ระดับลง ดังภาพประกอบ

ตัวอย่างการหาจุดเข้าออร์เดอร์ใน IQ OPTION

1. หากราฟที่วิ่งเป็นเทรนด์

ทำความเข้าใจสภาพตลาด (Market Condition)-6

2. วิเคราะห์กราฟ หากกราฟเป็นเทรนขาขึ้น(Bullish) ให้ทำการเข้าออร์เดอร์ที่จุดต่ำสุด(Low) ของราคา ในทางกลับกันหากเพื่อนๆ พบว่า ณ ตอนนั้นกราฟวิ่งเป็นเทรนด์ขาลง ให้เพื่อนๆ เข้าออร์เดอร์ขายที่จุดสูงสุด(High) ของราคา

จากภาพจะเห็นได้ว่ากราฟเป็นเทรนด์ขาขึ้น (Bullish) ดังนั้นตามหลักการแล้วกราฟที่เป็นเทรนด์ขาขึ้น ราคาจะต้องทำการวิ่งเป็นรูปคลื่นในลักษณะของการยกจุดต่ำสุดสูงขึ้น (New Low) ดังภาพประกอบ เพราะฉะนั้นเพื่อนๆสามารถใช้ตำแหน่งจุดต่ำสุดในการออกคำสั่งซื้อ(Buy) ได้เลยตามหลักการวิเคราะห์
 

เรื่องที่เกี่ยวข้อง
เทคนิคการเทรดด้วย Fibonacci Lines
Fibonacci เป็นอินดิเคเตอร์ที่ถูกคิดค้นโดย Leonardo Fibonacci เขาเป็นนักคณิตศาสตร์ชาวอิตาลีชื่อดัง หลังจากที่เขาได้ค้นพบว่าตัวเลขอาราบิกนั้นง่ายต่อการคำนวณและมีประสิทธิภาพมากกว่าตัวเลขโรมัน เขาจึงได้ออกเดินทางไปที่คาบมหาสมุทรเมดิเตอร์เรเนียนเพื่อศึกษาวิชาคณิตศาสตร์ กับนักคณิตศาสตร์ชื่อดังชาวอาหรับ และในที่สุดเค้าได้ค้นพบตัวเลข Fibonacci คือ 1 1 2 3 5 8 .
การเทรด Break out คืออะไร (Break out Trading)
การเทรด Break out คือ การเทรดทำในช่วงที่ราคาสามารถทะลุกรอบแนวรับ-แนวต้านได้สำเร็จจากหลักการพื้นฐานเดิมของแนวรับ-แนวต้าน ที่ได้ตั้งสมมติฐานเอาไว้คือหากราคาเข้าใกล้โซนแนวต้าน (over bought) หมายความว่าตอนนี้ตลาดได้มีการซื้อที่มากเกินไปเหล่าเทรดเดอร์จึงเตรียมออกคำสั่งขาย