จากบทความก่อนหน้านี้และบทความจำนวนมากในเว็บไซต์ของเรา เราได้อธิบายวิธีการออกแบบกลยุทธ์การเทรดดิ้งที่มีประสิทธิภาพ งั้นมามองหาแรงบันดาลใจกันเถอะ! ผมจะแสดงเทคนิคที่คุณสามารถฝึกฝนหรือใช้เพื่อปรับปรุงกลยุทธ์การเทรดดิ้งของคุณในปัจจุบันโดยการใส่ตัวกรองให้กับการเทรดที่ขาดทุนได้
การเคลื่อนไหวของแนวโน้ม VS การเคลื่อนไหวในแนวราบ
คำถามพื้นฐานคำถามแรกเลยก็คือ “กลยุทธ์ของฉันจะใช้ได้ผลหรือไม่เมื่อเทรดไปตามแนวโน้มหรือเทรดสวนทางกับแนวโน้ม?”
- การเทรดตามแนวโน้ม (Trend Trading ) นั้นน่าดึงดูดใจมากกว่าเพราะมีรายรับที่มากกว่า เทรดเดอร์หลายคนพบว่าการ เทรดดิ้งด้วยวิธีนี้ “เป็นธรรมชาติมากว่า” ขั้นตอนต่อไปคือการตัดสินใจว่าควรเทรดตามแนวโน้มหรือสวนทางกับแนวโน้ม
- การเทรดตามการเคลื่อนไหวในแนวราบ (Sideway Trading) นั้นเป็นเรื่องที่ทำกันเป็นปกติมากกว่าเพราะตลาดเคลื่อนไหวไปในทิศทางเดียวกัน RSI หรือ Stochastic เป็นตัวแทนของตัวชี้วัดมากมายในการเทรดตามการเคลื่อนไหวในแนวราบ (Sideway Trading)
การตัดสินใจขึ้นอยู่กับคุณว่าคุณจะเลือกวิธีไหน อย่างไรก็ตาม มีหนึ่งสิ่งที่คุณต้องรู้ก็คือ ดูว่าตลาดยู่ในแนวโน้มหรือไม่ ดังที่คุณสามารถเดาได้ กลยุทธ์แนวโน้มทั้งหลายจะใช้ได้ผลก็ต่อเมื่อทำตามแนวโน้มหรือสวนทางกับแนวโน้มเท่านั้น
ระยะการเคลื่อนไหวของตลาด
Bollinger Bands และ ค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่
ตัวชี้วัดที่รู้จักกันในชื่อ “Bollinger bands” นั้นใช้เป็นฐานของ MA (ค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่) ในการรวมตัวนี้ ตัวชี้วัดแต่ละตัวมีความหมายที่แตกต่างกัน ถ้าหากคุณใช้ค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ สมมติว่าที่ช่วงเวลา 50 คุณจะเห็นแนวโน้มปัจจุบัน ในสถานการณ์ที่ค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่กำลังเคลื่อนตัวลงและราคาในแผนภูมิอยู่ใต้ค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่นั้นแสดงถึงแนวโน้มขาลง MA จะเพิ่มขึ้นเมื่อตลาดอยู่เหนือเส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่บ่งบอกถึงแนวโน้มขาขึ้น
การกำหนดแนวโน้มโดยกฎที่กล่าวไปข้างต้นสามารถใช้เป็นตัวกรองในกลยุทธ์แนวโน้มการซื้อขาย หรือกลยุทธ์ที่ไม่ใช้แนวโน้มกลยุทธ์อื่น ๆ ได้ ถ้าคุณเทรดตามรอบวันหรือรอบสัปดาห์คุณจะต้องใช้ช่วงเวลาที่นานกว่า เช่น 200 เทรดเดอร์ที่ยังคงอยู่ในตำแหน่ง 2-3 วินาทีหรือนาทีจะใช้ช่วงเวลาที่ 30
เปิดการเทรด: เด้งจาก MA ในแนวโน้มขาลงของตลาด
ด้วยการเพิ่ม Bollinger Bands เข้าไปในค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ คุณสามารถสร้างกลยุทธ์การเทรดดิ้งง่าย ๆ ได้ Bollinger Bands จะปรากฎขึ้นเมื่อตลาด “หยุดพัก” การเคลื่อนไหวไปด้านข้าง ที่จังหวะนี้แนวโน้มจะเข้าใกล้แถบกลางของ Bollinger Bands เพื่อตอบสนอง คุณสามารถคาดการณ์ได้ว่าแนวโน้มจะดำเนินต่อไปหลังจากการปรับฐานเล็กน้อย
เคล็ดลับ: Bollinger Bands อาจะช่วยคุณในการตั้งค่าคำสั่ง Stop Loss และ Take Profit ได้ แถบบนและแถบล่างสามารถใช้งานในตอนเข้าสู่ตำแหน่ง หรือ คุณอาจจะปล่อยให้ Stop Loss และ Take Profit ลอยอยู่เหนือระดับของเส้นใหม่ได้
การปรับเปลี่ยนกลยุทธ์การเทรดดิ้ง
มีไอเดียและแผนการเทรดดิ้งแล้วหรือยัง? ตอนนี้มันขึ้นอยู่กับคุณแล้วว่าจะทำอย่างไรต่อไป คุณได้เห็นพื้นฐานของกลยุทธ์การเทรดดิ้งแล้ว แต่ปัจจัยที่เกี่ยวข้องกับความสำเร็จของคุณมากที่สุดก็คือเครื่องมือ, ช่วงเวลา และที่สำคัญที่สุดคือการบริหารจัดการตำแหน่ง การบริหารจัดการตำแหน่งนั้นเป็นพื้นฐานในการสร้างสิ่งอื่น ๆ
ตัวเลือกที่ : เมื่อเปิดตำแหน่งคุณสามารถวางคำสั่ง Stop Loss และ Take Profit ที่ด้านบนและด้านล่างของ Bollinger Bands ได้ ตัวเลือกที่ 2: ปล่อย Stop Loss และ Take Profit ให้ลอยตัวที่ระดับของแถบ Bollinger Bands แถบใหม่ ตัวเลือกที่ 3: เปิดตำแหน่งด้วยจำนวน X และปิดก็ต่อเมื่อถึงครึ่งหนึ่ง (เช่น X/2) ของตำแหน่งที่ระดับของ Bollinger Bands (ในกำไร) เพื่อดำเนินการการทำงานกับอีกครึ่งที่เหลือ (เพื่อที่จะย้าย Stop Loss ไปที่ตำแหน่งเปิดและเพื่อใช้ Take Profit ในการเก็งกำไรเหนือการก่อตัวของแนวโน้ม หรือตั้งค่า Stop Loss ลอยตัวที่ระกับของ Y pips จากจุดกำไรสูงสุด) ต่อไป
ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับวิธีการใช้งานคำสั่ง Stop Loss / Take Profit สามารถพบได้ในบทความของเรา หมวดหมู่: การจัดการเงิน Forex
ไอเดียเรื่องการใช้ Bollinger Bands เป็นหลักในกลยุทธ์การซื้อขายของคุณนั้นเป็นส่วนที่ง่าย ส่วนที่ยากคือการสร้างกลยุทธ์อย่างถูกต้องซึ่งต้องผ่านการทดสอบ ใช้เวลาตัวเองทั้งวัน (หรือเป็นอาทิตย์) ดูประวัติการเทรดที่แสดงบนแผนภูมิ วาดตัวชี้วัดสองสามตัวลงไป และทำการทดสอลย้อนกลับ ขั้นตอนการทำงานแบบนี้สามารถใช้ได้กับ Forex, สินค้าโภคภัณฑ์, หุ้น และ Binary Options เพื่อพัฒนากลยุทธ์การเทรดดิ้ง Forex มันอาจจะใช้เวลานานหลายชั่วโมง ถ้าไม่เจ็บปวดก็ไม่มีวันเติบโต การทดสอบการเทรดจะช่วยให้คุณเข้าใจกลยุทธ์ได้ดีขึ้น
สำหรับบุคคลที่คาดหวังว่าจะได้รับกลยุทธ์ที่เป็นรูปธรรมจากบทความนี้ อย่าลืมความจริงที่ว่าตลาดนั้นพัฒนาอยู่เสมอและก็จำเป็นที่จะต้องปรับเปลี่ยนค่า Stop Loss และ Take Profit อยู่เสมอเป็นครั้งคราว ถ้าหากว่าจุดมุ่งหมายของคุณคือการเป็น
เทรดเดอร์อย่างจริงจังคุณจะ (ใช้คำแนะนำด้านบน) พบสไตล์การเทรดดิ้งของตนเองอย่างแน่นอน เราจะขอบคุณอย่างมากถ้าหากว่าคุณแบ่งปันความสำเร็จและไปเดยในการปรับปรุงกลยุทธ์ที่กล่องแสดงความคิดเห็นของเราด้านล่าง