ในบทความการวิเคราะห์ทางเทคนิคก่อนหน้า เราได้พูดถึงเกี่ยวกับวิธีการทำนายการเคลื่อนไหวของราคาตามการเคลื่อนไหวของแผนภูมิและรูปแบบของแท่งเทียนที่สร้างขึ้น (อ่านเพิ่มเติมเกี่ยวกับเรื่องนี้ได้ที่นี่: รูปแบบของราคา)
รูปแบบของแท่งเทียนไม่ใช่เพียงสิ่งเดียวที่เราควรสนใจนะครับ เราควรสนใจที่ขนาดและรูปร่างของแต่ละแท่งเทียนด้วย แท่งเทียนมีอยู่หลายประเภทและการผสมกันอยู่หลายรูปแบบ ในบางครั้งแท่งเทียนอาจจะมีไส้เทียนที่ยาว หรือในบางครั้งอาจจะไม่มีไส้เทียนเลยก็ได้ นี่คือสิ่งที่เราจะพูดถึงกันในวันนี้
Pinbar
วิธีหา pinbar (คลิกเพื่อซูม)
มาเริ่มกันที่แท่งเทียน pinbar กันเลย จริงอยู่ที่ว่ามันไม่ได้เป็นรูปแบบของแท่งเทียนซะที่เดียว เพราะมันมาจากแท่งเทียนอันเดียวเท่านั้น แต่นั่นไม่สำคัญหรอก
pinbar (หรือ pin bar) เป็นแท่งเทียนที่มีไส้เทียนยาวมากแต่แท่งเทียนที่สั้นมาก และในอีกด้านจะมีไส้เทียนที่สั้น ดังนั้นก็คือจะมีอยู่สองแบบ ได้แก่ด้านบนยาวแล้วด้านล่างสั้น หรือด้านล่างสั้นแล้วด้านบนยาว
แท่งเทียนนี้สื่อความหมายที่ว่าในระหว่างทาง ราคาได้เพิ่มสูงขึ้นอย่างมาก แต่ในตอนท้ายของแท่งเทียนมีบางอย่างเกิดขึ้นที่ส่งผลต่อทิศทางของการพัฒนาของราคา (กล่าวคือ การแตะที่เส้นสำคัญหรือแนวต้านหรือแนวรับ) ดังนั้นราคาจึงกลับไปในทิศทางตรงข้าม ในตอนนี้เราสามารถคาดการณ์ได้แล้วว่าราคาจะคงเดินหน้าต่อไปในทิศทางเดียวกัน
ตัวอย่างแท่งเทียนแบบ 2 PINBAR
รูปแบบ Three line strike
รูปแบบนี้จะประกอบด้วยแท่งเทียน 4 แท่งติดกันเสมอ โดยแท่งเทียนสามแท่งจะต้องไปในทิศทางเดียวกัน และแท่งเทียนที่สี่จะต้องไปในทิศทางตรงข้าม รูปแบบ three line strike บ่งบอกถึงการกลับตัวของเทรนด์ในอนาคต และใช้งานได้ดีที่สูงใน time frame M15 หรือสูงกว่า
รูปแบบนี้ใช้งานได้ดีที่สุดเมื่อแท่งเทียนสุดท้ายเป็นแบบ pinbar
ตัวอย่างรูปแบบแท่งเทียน THREE LINE STRIKE
รูปแบบของแท่งเทียนอื่น ๆ
ผมคิดว่าวันนี้เราเรียนรู้แค่รูปแบบแท่งเทียนทั้งสองนี้ก็เพียงพอแล้ว คุณอยากรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับรูปแบบแท่งเทียนไหมล่ะ? แชร์บทความลงบนโซเชียลมีเดียและเขียนความคิดเห็นไว้ด้านล่างเลย!