การรู้ว่าตอนไหนควร Take Profit อาจจะไม่ง่ายเหมือนที่คุณคิด หนึ่งในทางเลือกก็คือการตั้งเป้าหมายทางเทคนิค จากนั้น Take Profit หรือ Stop Loss ทั้งสองตัวเลือกจะพยายามล็อคและเพิ่มผลกำไรให้ได้สูงสุด แต่ทั้งสองตัวเลือกนี้มาพร้อมกับความเสี่ยง ซึ่งเป็นเรื่องปกติในการเทรด
โบรกเกอร์ IQ Option มีคุณสมบัติการเทรด Forex (CFD) ที่มีชื่อว่า “Autoclose“ ซึ่งเป็นสิ่งที่เราต้องการ นั่นก็คือการตั้ง Take Profit และ Stop Loss คุณสมบัติหลักของทั้งสองตัวเลือกนี้คือการเพิ่มผลกำไรให้ได้สูงสุดซึ่งแน่นอนว่าต้องมีความเสี่ยง หากคุณตั้งเป้าหมายไม่ถูกต้อง คุณอาจจะไปไม่ถึงเป้าหมายในทางเทคนิค สิ่งที่จะเกิดขึ้นก็คือคุณสมบัติ Autoclose จะเปิดใช้งานก่อนที่จะมีการเคลื่อนไหว (เพื่อหยุดเทรดที่มีแนวโน้มก่อนกำหนด) ทำให้คุณเสียเปอร์เซ็นต์ของกำไรที่ยังไม่เกิดขึ้น
Take profit คือระดับราคาบนแผนภูมิที่คาดว่าราคาจะหยุดหรือพลิกกลับ หรือระดับราคาที่คาดว่าจะถึงตามการเคลื่อนไหวของราคาที่ผ่านมา แปลว่าหากราคาแตะเส้นที่ตั้งไว้ คุณจะได้รับผลกำไร
ตัวอย่างการตั้ง take profit บนแผนภูมิ EUR/USD
ข้อเสียเดียวของออปชั่นนี้คือเวลาที่ใช้ในการรอให้ราคาไปถึงเป้าหมาย และสิ่งที่จะเกิดขึ้นหลังจากราคาไปถึงเป้าหมายแล้วนั้นไม่แน่นอน หากคุณต้องการที่จะประสบความสำเร็จคุณจำเป็นต้องอดทนและรอจนกว่าราคาจะถึงระดับที่คาดการณ์ จากนั้นค่อยตัดสินใจว่าจะขายหรือจะรอ หากคุณตัดสินใจที่จะขาย คุณจะได้กำไร หากคุณรอ คุณจะต้องแบกรับความเสี่ยงว่าสิ่งที่คุณทำมาทั้งหมดอาจจะหายไป
Autoclose: คุณสมบัติ Autoclose คือหนึ่งในเครื่องมือที่เทรดเดอร์ที่ประสบการณ์สำเร็จทุกคนใช้ ประโยชน์หลักของ Autoclose คือการตั้งเป้าหมาย Stop Loss
เมื่อตั้งเป้าหมาย Autoclose เพื่อขายในตอนที่ขาดทุน 5 ถึง15% เทรดเดอร์จะสามารถปกป้องเงินทุนจากเหตุการณ์ราคาตกและรอดไปอีกวัน หากไม่มีเครื่องมือนี้ พวกเขาเสี่ยงที่จะเสีย 100% จากการเทรด ดังนั้นโปรดระมัดระวังด้วย!
เทรดเดอร์หลายคนไม่รู้ว่า Autoclose ของ IQ Option เปิดใช้งานสองการตั้งค่า การตั้งค่าแรกสำหรับ Stop Loss และอีกอันสำหรับการทำกำไร
เทรดเดอร์สามารถใช้ Stop-loss และ Take-profit ได้ไม่เพียงแค่กับ IQ Option เท่านั้น แต่ยังใช้กับโบรกเกอร์อื่น ๆ หรือคนที่ใช้แพลตฟอร์ม MT4 อีกด้วย!
ข้อดีและข้อเสีย
ข้อดี
เมื่อคุณตั้งเป้าหมายของ Take Profit และ Stop Loss คุณได้ขจัดอารมณ์ออกจากการตัดสินใจทั้งหมดออกไปแล้ว เมื่อกำไรถึงระดับที่พอใจแล้วระบบจะทำการปิดเทรดทันทีโดยไม่ถามก่อน แปลว่าเทรดเดอร์ไม่จำเป็นต้องนั่งเฝ้าดูเทรดแล้วคิดว่า “จะทำแบบนั้นหรือแบบนี้ดีนะ“ ข้อดีอีกหนึ่งอย่างคือ ข้อดีอีกข้อหนึ่งคือการแตะเป้าหมายเพียงครั้งเดียวเทรดก็จะเสร็จสิ้น ข้อดีนี้เป็นประโยชน์ในระหว่างช่วงที่มีความผันผวนเพิ่มขึ้นเมื่อราคาถึงระดับเป้าหมายในช่วงระยะเวลาสั้น ๆ
ข้อเสีย
ข้อเสียของ Autoclose มีเพียงข้อเดียว คือ การสูญเสียทางการเงิน (หรือกำไรน้อย) มีหลายครั้งที่ผมเห็นไปถึงเป้าหมายกำไรแล้วราคาก็ยังขึ้นต่อไปอีก ผมเห็นเหตุผลในความแตกต่างระหว่างราคาที่เป็นไปได้และสิ่งที่สามารถคาดหวังได้อย่างสมเหตุสมผล การตั้ง Take-profit ที่ระดับหนึ่งอาจรับประกันกำไรส่วนหนึ่งไว้ได้ แต่มันอาจจะเป็นแค่ส่วนเล็ก ๆ ของกำไรสูงสุดก็เป็นได้ เพราะการเทรดไม่ควรที่จะใช้อารมณ์ในการตัดสินใจ ผมเลยคิดว่าคุณสมบัตินี้มีประโยชน์อยู่นะ
วิธีใช้คุณสมบัติ Autoclose
การใช้คุณสมบัติ Autoclose นั้นง่ายมาก สิ่งที่คุณต้องทำก็เพียงแค่ตั้งค่าเปอร์เซ็นต์ของเงินทุนที่คุณต้องการจะปกป้องในเหตุการณ์ขาดทุนหรือ lock-in ในเหตุการณ์ที่ได้กำไร กฎง่าย ๆ สำหรับการตั้งค่าระดับ Stop-loss คือ 3% ของบัญชีทั้งหมด หากบัญชีทั้งหมดของคุณคือ USD 10,000 ระดับ Stop-loss ของคุณจะเท่ากับ USD 300 เมื่อคุณตั้งค่าระดับ Stop Loss ที่ระดับนี้ คุณจะป้องกันการขาดทุนที่เกินกว่า USD 300
ผมตั้งเป้าหมายไว้ที่ 3% ของบัญชีผม เท่ากับ 30% ของการเทรด ด้วยยอดรวมทั้งหมด USD 10.000 ในบัญชีของฉัน ปริมาณการเทรดทั้งหมด USD 1.000 เป็นที่ยอมรับได้เพราะในกรณีที่ขาดทุน ผมจะขาดทุนไม่เกิน USD 300 นอกจากค่าเปอร์เซ็นต์แล้ว คุณยังสามารถระบุจำนวน pips
การตั้งเป้าหมาย Take Profit นั้นยากขึ้นนิดหน่อยเพียงเพราะคุณต้องการ lock in ผลกำไรให้ได้มากที่สุด โดยส่วนตัวแล้วผมตั้งเป้าหมาย Take Profit เริ่มต้นไว้ที่ 50% แปลว่าถ้าหากเทรดมีการเคลื่อนไหวของราคาไปอย่างรวดเร็วผมจะไปถึง 50% และทำกำไรได้ USD 500 (สมมติว่ามี USD 10,000 ในบัญชีของผม) ถ้าหากราคาเริ่มที่จะเคลื่อนไปในทิศทางที่คาดการณ์ไว้ (โดยที่ไปไม่ถึงเป้าหมาย Take-profit ชองผม) ผมจะเริ่มปรับตามเงื่อนไขของตลาด สิ่งแรกที่ผมจะทำคือการค่อย ๆ เพิ่ม Stop Loss เพื่อ lock in เงินทุนเพิ่มขึ้นเมื่อเทรดไปในทิศทางที่คุณคิด สิ่งต่อไปที่ผมจะทำคือการประเมินเป้าหมายทางเทคนิคสำหรับกำไรและโอกาสในการไปถึงเป้าหมาย และถ้าหากจำเป็นผมจะเพิ่มขีดจำกัดของ Take-profit ให้สอดคล้องกันด้วย
