ในช่วงเริ่มต้นเทรดเดอร์ที่เพิ่งเข้ามาใหม่มักจะระมัดระวัง หลังจากที่สามารถทำกำไรได้ครั้งแรกความมั่นใจของพวกเขาก็เพิ่มขึ้นโดยธรรมชาติ หนึ่งเดือน, สองเดือน หรือสามเดือนก็เพียงพอแล้วสำหรับเทรดเดอร์หลาย ๆ คนที่จะทำให้เขารู้สึกว่าตนเองมีความเชี่ยวชาญในตลาดแล้ว
ผมสามารถมองเห็นคุณกำลังพูดว่า “นั่นไม่ใช่ฉันแน่นอน” แต่เชื่อผมเถอะ: ความมั่นใจในตนเองที่มากเกินไปเป็นเหตุผลของความสูญเสียทีร้ายแรงสำหรับหลาย ๆ คน ลองมาดูสิ่งที่ทุกคนควรระมัดระวังกันเถอะ
กลยุทธ์การเทรดดิ้ง
คุณจะได้เห็นและได้ยินในทุก ๆ ที่ ซึ่งบางครั้งมันก็น่าเบื่อแต่มันเป็นเรื่องจริง: กลยุทธ์การเทรดดิ้งนั้นคือสิ่งสำคัญ แต่อย่าสับสน กลยุทธ์การเทรดไม่ใช่เรื่องยากขนาดนั้น; มันเป็นแค่รูปแบบที่ทำงานบนเครื่องมือที่ถูกเลือก
ผมได้เห็นกลยุทธ์ที่แปลก ๆ มากมาย เช่น กลยุทธ์ที่อิงตามปฏิทินจันทรคติ, โดยเฉพาะอย่างยิ่งระยะพระจันทร์เต็มดวง หนึ่งในบทความก่อนหน้านี้ของเรา เราได้พูดถึงเรื่องกลยุทธ์ Martingale (forex martingale) มันเป็นวิธีที่ไม่ปกติและขัดแย้งกัน แต่ทำไมจะไม่ลองล่ะ ใช้กลยุทธ์ทดสอบย้อนกลับด้วยความเป็นต่อในฝั่งของคุณ คุณมีกลยุทธ์การเทรดดิ้ง
ถ้าคุณเป็นหนึ่งในเทรดเดอร์ที่ชอบใช้วิธีดั้งเดิมผมมั่นใจว่าคุณจะข้ามย่อหน้าก่อนหน้านี้ไป ไม่เช่นนั้นคุณก็ต้องคิดว่าเราเป็นบ้าไปแล้ว ตามคำนิยามแล้วกลยุทธ์การเทรดดิ้งในความเป็นจริงนั้นเป็นรูปแบบที่น่าจะมีผลกำไรที่มีกฎเกณฑ์ชัดเจน ระบบควรจะมีเหตุผลและสามารถอธิบายได้ในทางจิตวิทยา
ความเสี่ยงในการเทรดดิ้งที่เพิ่มขึ้น
ถ้ากลยุทธ์การเทรดดิ้งของคุณมีองค์ประกอบอย่างเช่น การเพิ่มตำแหน่ง หรือ การเคลื่อนย้าย Stop Loss นั้นโอเค อย่างไรก็ตาม หลังจากที่เวลาผ่านไปสักสองสามเดือน ความเสี่ยงก็เพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ จนมากกว่าระดับกลยุทธ์การเทรดดิ้งของคุณ (ในการตั้งค่าจุดเข้าที่สูงเกินไปการเคลื่อนย้ายหรือไม่ได้ตั้งค่า Stop Loss) คุณอาจเจอกับปัญหาได้
การเทรดดิ้งเป็นเรื่องของความเป็นไปได้ในเรื่องความสำเร็จ แม้แต่กลยุทธ์การเทรดที่ดีที่สุดในโลกก็มีทั้งช่วงเวลาที่ใช้ได้ดีและแย่ ถ้าหากเวลาที่ดีของคุณใช้เวลานานเกินไป ความน่าจะเป็นในการใช้กลยุทธ์ก็อาจส่งผลเสียได้มากขึ้นในอนาคต
อย่างไรก็ตามการยอมรับการเทรดที่ขาดทุนตอนที่ทำการทดสอบเป็นเรื่องปกติ ถ้ากลยุทธ์ของคุณประสบความสำเร็จ 65% ในปีที่แล้ว และ 80% ในช่วงสองสามเดือนนี้ อาจคาดหวังได้ว่าอัตราผลกำไรจะลดลงอย่างมีนัยสำคัญเนื่องจากคาดการณ์ไว้ที่ 65% สำหรับปีที่กำลังจะมาถึงกล่าวอีกอย่างหนึ่งก็คือ กำไรที่เหนือค่าเฉลี่ยของคุณจะอยู่ในระดับที่เป็นกลางจากการเทรดที่ทำเสียไป
ในขณะการเทรดประสบความสำเร็จอย่างต่อเนื่องเทรดเดอร์มีแนวโน้มที่จะเข้าข้างตัวเองมากเกินไปในความเชื่อที่ว่าพวกเขานั้นมีความเชี่ยวชาญที่เพอร์เฟ็คแล้วในตลาด Forex โดยการเพิ่มขนาดตำแหน่งของพวกเขา พวกเขาก็เพิ่มความเสี่ยงให้ตนเองด้วย (อย่างเช่น Martingale) แม้กระทั่งหลังจากการเทรดที่ทำกำไรได้แล้วก็ตาม ถ้าหากสิ่งนี้เกิดขึ้นในช่วงเวลาที่เกินกว่าค่าเฉลี่ยการเทรดก็ดูเหมือนว่าการสูญเสียก็สูงขึ้นด้วย ดังที่ได้กล่าวไปแล้วด้านบน วันหนึ่งคุณจะเผชิญกับความสูญเสียและเนื่องจากการตั้งค่าที่เกินกว่ากลยุทธ์และการบริหารจัดการเงิน การสูญเสียก็จะยิ่งมากขึ้น
ปกติแล้วผลลัพท์จะไม่ใช่การสูญเสียครั้งใหญ่เพียงครั้งเดียว แต่การสูญเสียจะจบลงด้วยผลกำไรและเงินทุนทั้งหมดในบัญชีของคุณจะหายไป เทรดเดอร์มีแนวโน้มที่จะมีความมั่นใจมากเกินไปอีกครั้งและพยายามที่จะชดเชยความสูญเสียเหล่านี้ ซึ่งมันไม่ถูกต้อง ตลาดไม่ได้เป็นแบบนี้ ถ้าคุณไม่ใช้กลยุทธ์หรือใช้อารมณ์มากเกินไป และมีอัตตาที่สูงเกินไปคุณก็จะพังได้ง่าย ๆ
บางทีคุณอาจจะบอกว่าเหตุการณ์แบบนี้ไม่เกิดขึ้นกับคุณหรอก เอ่อ มันก็อาจจะไม่ได้ร้ายแรงเท่าที่บอกไปแต่เชื่อผมเถอะว่าวันหนึ่งคุณจะจะเจอกับเหตุการณ์แบบนี้ได้เช่นกัน มันเป็นอะไรที่เทรดเดอร์ต้องเรียนรู้ การชนะและการพ่ายแพ้ การตัดสินใจที่ดีและแย่ทั้งหมดนี้เป็นส่วนหนึ่งของการเทรดดิ้ง บทความนี้มีจุดประสงค์ที่ต้องการให้คุณตระหนักถึงความเสี่ยงที่มีอยู่และให้คำแนะนำในการหลีกเลี่ยงเหตุการณ์เลวร้ายแก่คุณหรืออย่างน้อยก็ให้ส่ผลกระทบกับคุณน้อยที่สุด โปรดจำเอาไว้ว่าการเทรดดิ้งและ / หรือกลยุทธ์การเทรดิ้งเป็นเพียงแค่เรื่องของความน่าจะเป็น
