Martingale เป็นกลยุทธ์ที่ได้รับความนิยมอย่างมากสำหรับการเล่นพนันที่มีโอกาสประสบความสำเร็จด้วยอัตรา 1 ต่อ 1 (เช่น แดง และ ดำในรูเล็ต) หลังจากแพ้ไปหนึ่งรอบ คุณควรวางเดิมพันสองเท่าซึ่งจะชดเชยการสูญเสียรอบก่อนหน้าและได้กำไรเพิ่มในบางส่วน คำถามก็ชัดเจนมาก นั่นคือ: มันใช้กับการเทรดดิ้งได้หรือไม่?  

แผนการเทรดดิ้งคือจอกศักดิ์สิทธิ์

แผนการเทรดคือสิ่งที่ศักดิ์สิทธิ์ นี่ไม่ใช่เรื่องใหม่และคุณจะได้อ่านเกี่ยวกับเรื่องนี้อยู่บ่อยครั้งในบทความของเรา ในแง่ของการทำกำไรระยะยาว เราเห็นด้วย แล้วถ้าวางการเทรดดิ้งแบบเดิมเอาไว้แล้วสักครู่หนึ่งแล้วมาดูที่กลยุทธ์การเทรดดิ้ง Martingale ล่ะ?

กลยุทธ์นี้ถูกตั้งชื่อตาม John Henry Martindale ซึ่งถูกเปลี่ยนเป็น Martigale ในภายหลัง นาย Martindale เป็นเจ้าของคาสิโนในลอนดอนที่เชื่อว่าคาสิโนจะต้องชนะเสมอ ดังนั้นเขาจึงเชิญชวนให้นักพนันวางเดิมพันเป็นสองเท่า นักพนันทำตามที่เขาบอกหลังจากนั้นเขาก็เจอกับปัญหา (... แต่นี่เป็นเรื่องที่ต่างออกไปโดยสิ้นเชิง) 

เราได้ทำการวิเคราะห์กลยุทธ์นี้จากมุมมองของเทรดเดอร์ Binary Options ปัญหาที่เรากำลังจะพูดถึงต่อไปนี้ค่อนข้างแตกต่างออกไป ฉะนั้น เราจึงแนะนำให้คุณอ่านไป ถ้าหากคุณอยากรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับ Martingale จากมุมมองของ Binary Option ให้อ่านบทความต่อไปนี้: Martingale กับ Binary Options 

Martingale และการเทรดดิ้ง: กลยุทธ์การเทรดดิ้ง

ก่อนอื่นเลย คุณจะต้องมีกลยุทธ์การเทรดดิ้งซึ่งคล้ายกับที่ใช้กันในคาสิโน เช่น อัตราความสำเร็จที่ 1 ต่อ 1 ในแง่ของการเทรดดิ้งนี่หมายถึงสองอย่าง: กลยุทธ์จะต้องมีอัตราความสำเร็จอย่างน้อย 50% และอัตราส่วนผลตอบแทนความเสี่ยงจะต้องเท่ากันหรือใกล้เคียงกับตัวเลขนี้ เช่น Take Profit และ Stop Loss ควรอยู่ที่ประมาณ 1 ต่อ 1 

ภายใต้สถานการณ์เช่นนี้ กลยุทธ์จะคล้ายกับที่ใช้ในห้องพนันที่คุณวางเดิมพันบนแดงหรือดำ และแต้มต่อหรือเสมอ

คำถามที่ว่า Maringale สามารถใช้ได้หรือไม่นั้นกำลังเป็นที่ถกเถียงกันในหลาย ๆ ฟอรั่ม ในฐานะเทรดเดอร์ระยะยาวที่ส่งเสริมการเทรดที่ซีเรียส ผมจะตอบว่าไม่สามารถใช้ได้ บางทีผมก็ไม่ควรเข้มงวดขนาดนี้ Martingale ก็เป็นกลยุทธ์การเทรดดิ้งด้วยเช่นกัน ไม่ใช่แค่เฉพาะการพนันใช่ไหม?

Martingale: โอกาสและลางร้าย

ถ้าหากว่าคุณเป็นเจ้าของกลยุทธ์การเทรดที่มีประสิทธิภาพ คุณมีตัวเลือกดังต่อไปนี้: (1) หาโบรกเกอร์ที่นำเสนอการเทรดดิ้งที่ไม่มีเลเวอเรจ, (2) คิดจำนวนเงินที่คุณต้องการอย่างระมัดระวัง ทำไมน่ะเหรอ? ลองนึกถึงการวาง “เดิมพัน” ของคุณเป็นสองเท่า: 1, 2, 4, 8, 16, 32, 64, 128, 256, 512, 1,024, 2,048 และอื่น ๆ ถ้าคุณเป็นเทรดเดอร์คุณจะเข้าใจเรื่องนี้เป็นอย่างดี บางครั้งคุณก็เจอกับการสูญเสียต่อเนื่อง ด้วย Martingale และในกรณีของการเทรดดิ้งเลเวอเรจความเสี่ยงจะเพิ่มขึ้นแบบทวีคูณ ดังนั้นคุณจึงต้องตอบคำถามต่อไปนี้: ฉันรับได้ไหม? ฉันมีเงินมากพอสำหรับเทรดดิ้งหรือไม่? ฉันเต็มใจที่จะรับความเสี่ยงนี้หรือเปล่า? 

Martingale เป็นกลยุทธ์สำหรับเทรดเดอร์ที่มีความมั่นใจแบบสุด ๆ แต่ในทางกลับกัน ทำไมไม่ใช้ล่ะ? ทำไมไม่ลองใช้กลยุทธ์นี้ดู? เปิด บัญชีทดลอง Forex และทดลองใช้ ถ้าคุณได้ผลลัพทธ์ที่ดี ในระยะยาว ให้คุณเปิดบัญชีจริง เปิดบัญชีเล็ก ๆ ที่มีเงินไม่กี่สิบดอลล่าร์ หรือหลายร้อยดอลล่าร์ที่มีเลเวอเรจเพียงเล็กน้อย (ในอุดมคติแล้วคือไม่มีเลย) และลองเทรดดู

Martingale ในฐานะกลยุทธ์การเทรดดิ้ง 

โดยทั่วไปแล้วสามารถใช้ Martingale เป็นกลยุทธ์การเทรดดิ้งได้สามวิธีด้วยกัน

เพิ่มปริมาณการเทรด

นี่หมายความว่า ถ้าการเทรดรายการแรกของคุณในชุดเป็นการเทรดเสีย (1 ล็อต, เสียไป 10 pips) ในการเทรดครั้งถัดไปคุณจะเทรด 2 ล็อต (เสีย 10 pips เท่ากัน) เลเวอเรจไม่มีผลต่อวิธีนี้

เพิ่มเลเวอเรจ

นี่หมายความว่าถ้าการเทรดรายการแรก 1 ล็อตของคุณ, 10 pips มีเลเวอเรจเท่ากับ 1 ถึง 10 คุณจะทำการเทรดครั้งถัดไปด้วยจำนวนเดียวกัน เช่น 1 ล็อตและ 1 pips ปัญหาก็คือ ไม่ใช่ทุกโบรกเกอร์ที่เปิดการตั้งค่าและปรับเปลี่ยนเลเวอเรจได้ง่าย ๆ 

ขยายระยะห่างระหว่าง Stop Loss และ Take Profit 

หมายความว่า ถ้าหากการเทรดรายการแรกของคุณคือการเสีย 1 ล็อต, 10 pips ด้วยเลเวอเรจเท่ากับ 1 ถึง 10 คุณจะทำการเทรดด้วยจำนวนเดียวกัน เช่น 1 ล็อตแต่มีระยะห่างระหว่าง Stop Loss และ Take Profit เป็นสองเท่า ในเคสของเรา มันจะเป็น 20 pips เลเวอเรจไม่มีผลกับวิธีนี้ ข้อเสียของกลยุทธ์นี้คือ หลังจากการเสียต่อเนื่องกันสองสามครั้ง ระยะห่างระหว่าง Stop Loss และ Take Profit จะใหญ่เกินไปซึ่งอาจใช้เวลาหลายชั่วโมง, หลายวัน หรือแม้กระทั่งหลายสัปดาห์กว่าเส้นของคุณจะแตะถึง ซึ่งจะทำให้คุณเสียเงินจำนวนมากให้กับค่าธรรมเนียม 

รูปภาพที่ด้านขวาแสดงให้เห็นวาสปริมารณการเทรดในแต่ละครั้งเพิ่มขึ้นเร็วขนาดไหนตอนที่เสียหลายครั้งต่อเนื่องกัน ตัวอย่างนี้ใช้กับวิธีที่ได้อธิบายไปด้านบน การเพิ่มปริมาณการเทรด

ถ้าคุณเริ่มเทรดด้วยไมโครล็อต การเทรดต่อเนื่องครั้งที่ 8 จะมีปริมาณ 1 ล็อต และการเทรดครั้งที่ 11 จะเพิ่มเป็น 10 ล็อต แน่นอนเลยว่ากลยุทธ์นี้ไม่ใช่กลยุทธ์ที่ยั่งยืน 

ในตอนสุดท้าย คุณอาจพบว่า Martingale นั้นเป็นกลยุทธ์การเทรดดิ้งที่ซับซ้อนที่มีกฎตายตัวสำหรับ Stop Loss, Take Profit, การใช้เลเวอเรจ, และปริมาณการเทรด โดยธรรมชาติแล้วคุณสามารถรวมวิธีเหล่านี้เข้าด้วยกันได้ ในการรวมเข้ากับกลยุทธ์อื่นสิ่งนี้ก็อาจจะไม่ช่การพนันอีกต่อไปแต่กลายเป็นระบบการเทรดดิ้งที่แข็งแกร่ง 

แม้ว่าสิ่งที่เรากล่าวไว้ก่อนหน้าคือเราไม่แนะนำให้ใช้ Martingale เป็นกลยุทธ์หลักของคุณ แต่มันสามารถวางแผนอย่างละเอียดหรือใช้แยกต่างหากในการเทรดขนาดเล็กได้ อย่างไรก็ตาม ถ้าหากว่าผมเพิ่งเริ่มต้น ผมก็จะเริ่มต้นด้วยกลยุทธ์ที่รอบคอบมากกว่านี้ 

ผมได้กล่าวไปแล้วว่าผมมีความสงสัยในเรื่องนี้มาโดยตลอด ถ้าหากมีคนถามผมว่าผมจะแนะนำให้ใช้กลยุทธ์นี้ไหม ผมก็จะตอบทันที่ว่า ไม่ หลังจากคิดเกี่ยวกับเรื่องนี้ให้ลึกซึ้งมากขึ้นโดยพิจารณากฎเกณฑ์บางอย่างร่วมด้วยแล้วผมก็คิดว่ามันสมเหตุผล อย่างไรก็ตาม นี่ไม่ใช่การเทรดดิ้งที่ไม่สำคัญแต่เป็นการจัดการขั้นสูงของตำแหน่ง ระมัดระวังให้มากตอนที่ใช้กลยุทธ์นี้ 
 

เรื่องที่เกี่ยวข้อง
Myfxbook: เครื่องมือที่เป็นประโยชน์สำหรับเทรดเดอร์ Forex?
บทความนี้จะมุ่งเน้นไปที่ Myfxbook คืออะไรและคุณสามารถใช้บริการต่างๆ ได้อย่างไรเป็นหลัก แน่นอนว่าผมจะพูดถึงข้อดีและข้อเสียเกี่ยวกับเครื่องมือติดตามขึ้นชื่อสำหรับเทรดเดอร์ forex ด้วย หัวข้อมูลที่จะพูดถึงในบทความนี้มีดังต่อไปนี้:
3 เทคนิคบริหารเงิน ลดโอกาสล้างพอร์ตได้มากกว่าเท่าตัว (พร้อมตัวอย่างแบบชัดๆ)
เคยสงสัยกันไหมว่า ทำไมบางคนเงินทุนสำหรับการลงทุนก็มีมากหลายหมื่น หลายแสนบาท กำไรก็เคยได้กันหลายหมื่น หลายแสนบาท แต่ทำไมคนเหล่านั้น วันนึงถึงมีการล้างพอร์ตจนหมดแม้กระทั่งกำไรที่สะสมมาก็หมด